ยงยุทธ วิชัยดิษฐ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ระบบบัญชีรายชื่อ และอดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย อดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย อดีตอธิบดีกรมที่ดิน อดีตประธานกรรมการการไฟฟ้านครหลวง อดีตประธานกรรมการการประปานครหลวง อดีตประธานกรรมการตรวจสอบของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และอดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย 2 สมัย
ยงยุทธ วิชัยดิษฐ เกิดเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2485 ที่อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นบุตรคนที่สองของสำรวม (บิดา) และพิณพาทย์ (มารดา; เสียชีวิตแล้ว) ในจำนวนพี่น้อง 7 คน ได้แก่
ยงยุทธสำเร็จการศึกษา ชั้นอนุบาล-ประถมศึกษาปีที่ 3 ที่โรงเรียนมานิตานุเคราะห์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี, ประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาลฯ จังหวัดสุราษฎร์ธานี, มัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนสิชลคุณาธารวิทยา อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช, มัธยมศึกษาปีที่ 2-6 โรงเรียนอินทรพิสัย จังหวัดสุราษฎร์ธานี, มัธยมศึกษาปีที่ 7-8 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา, ปริญญาตรี รัฐศาสตรบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อปี พ.ศ. 2507, ปริญญาโท รัฐศาสตรมหาบัณฑิต (เกียรตินิยม) จากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ เมื่อปี พ.ศ. 2513, ประกาศนียบัตรการปกครองระดับท้องถิ่น วิทยาลัยการปกครอง ประเทศญี่ปุ่น เมื่อปี พ.ศ. 2517, ประกาศนียบัตรหลักสูตรนักปกครองระดับสูง วิทยาลัยการปกครอง เมื่อปี พ.ศ. 2522 และประกาศนียบัตรวางแผนและจัดรูปเมือง สหรัฐอเมริกา เมื่อปี พ.ศ. 2528
ยงยุทธเริ่มรับราชการเมื่อปี พ.ศ. 2509 ในตำแหน่งปลัดอำเภอชั้นตรี ที่อำเภอท่าชนะ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ต่อมาได้โอนไปรับตำแหน่ง ปลัดเทศบาลเมืองภูเก็ต เมื่อปี พ.ศ. 2510 จากนั้นย้ายไปดำรงตำแหน่ง ปลัดเทศบาลในหลายจังหวัด สูงสุดเป็นที่ปลัดเทศบาลชั้นพิเศษ จากนั้นในปี พ.ศ. 2533 ก็ขึ้นเป็นปลัดจังหวัดสงขลาเป็นแห่งแรก หลังจากนั้นเมื่อปี พ.ศ. 2534 ย้ายไปเป็นผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง และรองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ต่อจากนั้น เมื่อปี พ.ศ. 2535 ก็กลับไปดำรงตำแหน่ง รองผู้ว่าราชการ ที่จังหวัดสงขลาอีกครั้ง และเมื่อปี พ.ศ. 2536 ก็ขึ้นสู่ตำแหน่งผู้ว่าราชการ ที่จังหวัดตรังเป็นแห่งแรก แล้วย้ายไปที่จังหวัดนครศรีธรรมราช (นักปกครอง ระดับ 10) แล้วเข้าสู่ส่วนกลาง ขึ้นเป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย เมื่อปี พ.ศ. 2541 เป็นอธิบดีกรมที่ดิน เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2543 จากนั้นกลับมาเป็นรองปลัดกระทรวงอีกครั้ง ในปี พ.ศ. 2544 แล้วขึ้นเป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2545 เป็นเวลา 8 เดือน จนกระทั่งเกษียณอายุราชการในปีเดียวกัน
เมื่อเกษียณอายุราชการแล้ว ยงยุทธเริ่มเข้าสู่งานการเมือง ด้วยการเป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ประจำกระทรวงสาธารณสุข (สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์) เมื่อวันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2546 และวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2547 จากนั้นเป็นประธานกรรมการ การไฟฟ้านครหลวง เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2548 และประธานกรรมการ กำกับดูแลกิจการไฟฟ้า เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2548, ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 และที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (พลตำรวจเอก โกวิท วัฒนะ) เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2551
ต่อมาในวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2551 พรรคเพื่อไทยจัดประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่ 4/2551 ลงมติเลือกยงยุทธ ซึ่งขณะนั้นรักษาการในตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย โดยเมื่อวันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2553 เขาประกาศลาออกจากตำแหน่งนี้ โดยให้เหตุผลเพื่อปรับโครงสร้างพรรค ก่อนการเลือกตั้งทั่วไป แต่ภายหลังสมาชิกพรรคลงคะแนนให้ยงยุทธกลับมาดำรงตำแหน่งอีกครั้ง
ยงยุทธได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในประเภทบัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554 และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้งเป็นรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในเวลาต่อมา ระหว่างดำรงตำแหน่งอยู่นั้น เมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2554 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานเลื่อนยศแก่ยงยุทธจาก "นายกองเอก" ให้เป็นที่ "นายกองใหญ่" ประจำกองอาสารักษาดินแดน
เมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2555 ยงยุทธประกาศลาออกจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เนื่องจาก อ.ก.พ.กระทรวงมหาดไทย ลงมติให้ไล่ออกจากราชการ จึงมีผลกระทบต่อคุณสมบัติทางการเมืองส่วนบุคคลของยงยุทธ ซึ่งอาจกระทบทำงานของรัฐบาล ทั้งอาจส่งผลทางการเมืองต่อพรรคเพื่อไทย โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน